พิธีไหว้ครู
ในพานพิธีวันไหว้ครู
มักจะประกอบไปด้วย ธูป เทียน และดอกไม้
ซึ่งดอกไม้ ที่ขาดไม่ได้ในพานไหว้ครู คือ ดอกมะเขือ หญ้าแพรก ข้าวตอก
และดอกเข็ม ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่มีความหมายเป็นปริศนาธรรมทั้งสิ้น
ดอกมะเขือ
เป็นดอกที่โน้มต่ำลงมาเสมอ ไม่ได้เป็นดอกที่ชูขึ้น
คนโบราณจึงกำหนดให้เป็นดอกไม้สำหรับไหว้ครู ไม่ว่าจะเป็นครูดนตรี ครูมวย
ครูสอนหนังสือ ก็ให้ใช้ดอกมะเขือนี้ เพื่อศิษย์จะได้อ่อนน้อมถ่อมตน พร้อมที่จะเรียนวิชาความรู้ต่างๆ
นอกจากนี้มะเขือยังมีเมล็ดมาก ไปงอกงามได้ง่ายในทุกที่
เช่นเดียวกับหญ้าแพรก
หญ้าแพรก
เป็นหญ้าที่เจริญงอกงาม แพร่กระจายพันธ์
ไปได้อย่างรวดเร็วมาก หญ้าแพรกและดอกมะเขือในวันไหว้ครูจึงมีความหมายซ่อนเร้นอยู่
คนโบราณจึงถือเอาเป็นเคล็ดว่า ถ้าใช้หญ้าแพรกดอกมะเขือไหว้ครูแล้ว สติปัญญาของเด็กจะเจริญงอกงามเหมือนหญ้าแพรกและ
ดอกมะเขือนั่นเอง
ดอกเข็ม เพราะดอกเข็มนั้นมีปลายแหลม
สติปัญญาจะได้แหลมคมเหมือนดอกเข็ม และก็อาจเป็นได้ว่า เกสรดอกเข็มมีรสหวาน
การใช้ดอกเข็มไหว้ครู วิชาความรู้จะให้ประโยชน์กับชีวิต
ทำให้ชีวิตมีความสดชื่นเหมือนรสหวานของดอกเข็ม
ข้าวตอก เป็นสัญลักษณ์ของความมีระเบียบวินัย
แม้ว่าโดยธรรมชาติแล้วคนเรามักจะมีความซุกซน ความเกียจคร้าน เป็นสมบัติมากบ้าง
น้อยบ้างก็ตาม เมื่อมีความต้องการศึกษาหาความรู้
เขาก็ต้องรู้จักควบคุมตนเองให้อยู่ในกรอบ ในระเบียบหรือในกฎเกณฑ์ที่สถาบันได้กำหนดไว้
ใครก็ตามหากตามใจตนเอง ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
บุคคลนั้นก็จะเป็นเหมือนข้าวเปลือกที่ถูกคั่ว แต่ไม่มีโอกาสได้เป็นข้าวตอก
เรื่องราวของวันไหว้ครูอย่าลืมแวะกลับไปเยี่ยมครูเก่าๆ
ที่เคยสั่งสอนเราก็ได้ กลับไปเยี่ยม ถามไถ่สารทุกข์ดิบกันเล็กน้อย อย่างน้อยท่านก็เป็นคนหนึ่งที่พาเราเดินไปสู่ทางแห่งความสำเร็จ