กางแผนลดหย่อนภาษี 2563 เพื่อยื่นลดหย่อนภาษี 2564 สำหรับมนุษย์เงินเดือนและผู้มีรายได้สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เพียงรวบรวมเอกสารให้ถูกต้องและครบถ้วน จากนั้นยื่นที่กรมสรรพากรหรือยื่นภาษีออนไลน์ ก็จะช่วยให้เราเสียภาษีน้อยลง แต่ก่อนอื่นคุณจะต้องรู้ว่าสิทธิลดหย่อนภาษี 2563 มีอะไรบ้าง
1. ค่าลดหย่อนภาษีส่วนตัว และครอบครัว
ค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท
ค่าลดหย่อนคู่สมรส 60,000 บาท สำหรับคู่สมรสที่จดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมายและไม่มีเงินได้ หรือมีรายได้แต่เลือกคำนวณภาษีพร้อมกัน
ค่าลดหย่อนฝากครรภ์และคลอดบุตร สามารถลดหย่อนได้ไม่เกิน 60,000 บาทต่อปี ทั้งนี้สามีสามารถลดหย่อนภาษีได้กรณีภรรยาไม่มีเงินได้
ค่าลดหย่อนบุตร สิทธิลดหย่อนภาษีบุตรคนแรกได้ 30,000 บาท สำหรับบุตรคนที่ 2 เป็นต้นไปสามารถลดหย่อนเพิ่มอีก 30,000 บาท แต่จะต้องเป็นบุตรโดยชอบตามกฎหมายสามารถใช้สิทธิ์ได้ไม่จำกัด และบุตรบุญธรรมโดยชอบด้วยกฎหมาย สามารถหักได้ไม่เกิน 3 คน (นับเฉพาะที่มีชีวิตอยู่)
ค่าลดหย่อนบิดามารดา สำหรับเลี้ยงดูพ่อแม่ และพ่อแม่คู่สมรสที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ให้คนละ 30,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 4 คน โดยสิทธิลดหย่อนบิดามารดาใช้ได้ครั้งเดียว เพราะฉะนั้นพ่อแม่ต้องระบุลงลายมือชื่อในหนังสือรับรองว่าลูกคนไหนจะเป็นคนเลี้ยงดู
ค่าอุปการะคนพิการ หรือคนทุพพลภาพ หักลดหย่อนได้ไม่เกิน 60,000 บาทต่อคน แต่ผู้พิการจะต้องมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี และมีบัตรประจำตัวคนพิการ พร้อมหนังสือรับรองการเป็นผู้อุปการะ
2. ค่าลดหย่อนกลุ่มประกัน เงินออม และการลงทุน
ประกันสังคม ลดหย่อนภาษีได้ตามจริงสูงสุดไม่เกิน 9,000 บาทต่อปี
เบี้ยประกันชีวิต สามารถหักได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี
เบี้ยประกันสุขภาพ ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 15,000 บาท กรณีทำประกันสุขภาพพ่วงกับประกันชีวิตจะต้องไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี
เบี้ยประกันสุขภาพพ่อแม่ หักได้ไม่เกิน 15,000 บาทต่อปี
เบี้ยประกันชีวิตคู่สมรส หักได้ไม่เกิน 10,000 บาทต่อปี กรณีคู่สมรสไม่มีเงินได้
เงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ลดหย่อนภาษีตามที่จ่ายจริงไม่เกิน 10,000 บาท ส่วนที่เกิน 10,000 บาท แต่ไม่เกิน 15% ของรายได้ และไม่เกิน 490,000 บาทจะได้รับการยกเว้น ไม่ต้องเอาไปคำนวณภาษี
เงินสะสมกองทุน กบข. และกองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน ไม่เกิน 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี หรือไม่เกิน 500,000 บาท
เงินสะสมกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ให้ตามที่จ่ายจริงไม่เกินจำนวน 13,200 บาท
กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ไม่เกิน 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี และไม่เกิน 500,000 บาท
กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) หักภาษีได้ไม่เกิน 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี และไม่เกิน 500,000 บาท
เบี้ยประกันชีวิตบำนาญ ไม่เกิน 15% ของเงินได้ และต้องไม่เกิน 200,000 บาท โดยเมื่อรวมกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน และ RMF จะต้องไม่เกิน 500,000 บาท
กองทุนรวมเพื่อการออมพิเศษ (SSFX) สิทธิลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 200,000 บาท
3. ค่าลดหย่อนอหังสาริมทรัพย์
ดอกเบี้ยกู้ยืมเพื่อที่อยู่อาศัย สิทธิลดหย่อนได้ไม่เกิน 100,000 บาท
ซื้อบ้านหลังแรกปี พ.ศ. 2558 ลดหย่อนได้ 20% ของราคาบ้าน โดยนำไปลดหย่อนภาษีได้ 5 ปี (เฉลี่ยปีละ 4%) แต่ที่อยู่อาศัยนั้นราคาไม่เกิน 3,000,000 บาท
ซื้อบ้านหลังแรกในปี พ.ศ. 2562 ลดหย่อนภาษีสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท แต่ที่อยู่อาศัยนั้นราคาไม่เกิน 5,000,000 บาท
4. ค่าลดหย่อนกลุ่มเงินบริจาค
เงินบริจาคเพื่อสนับสนุนการศึกษา การกีฬา และเงินบริจาคเพื่อประโยชน์สาธารณะ สามารถหักได้สองเท่า แต่รวมกันแล้วต้องไม่เกิน 10% ของรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย และค่าลดหย่อนภาษี
เงินบริจาคเพื่อสถานพยาบาลของรัฐ สามารถหักได้สองเท่า แต่รวมกันแล้วต้องไม่เกิน 10% ของรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย และค่าลดหย่อนภาษี
เงินบริจาคทั่วไป หักได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ต้องไม่เกิน 10% ของรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน และเงินบริจาค 2 กลุ่มแรกข้างต้น
เงินบริจาคให้พรรคการเมือง สูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท
5. ค่าลดหย่อนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ
สินค้าการศึกษาและกีฬา หักลดหย่อนภาษีไม่เกิน 15,000 บาท
สินค้าหนังสือ ไม่เกิน 15,000 บาท
สินค้ากลุ่มช้อปช่วยชาติ สินค้า OTOP ไม่เกิน 15,000 บาท
ท่องเที่ยวไทย เที่ยวเมืองหลัก ลดหย่อนภาษีได้ 15,000 บาท
ท่องเที่ยวไทย เที่ยวเมืองรอง ลดหย่อนภาษีได้ 20,000 บาท
ค่าเสียหายจากพายุปาบึก ค่าซ่อมบ้านไม่เกิน 100,000 บาท และค่าซ่อมรถไม่เกิน 30,000 บาท
ค่าเสียหายจากพายุโพดุล พายุคาจิกิ และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ค่าซ่อมบ้านไม่เกิน 100,000 บาท และค่าซ่อมรถอื่นๆ ไม่เกิน 30,000 บาท
เอกสารยื่นภาษีที่ต้องเตรียมมีอะไรบ้าง?
สำหรับบุคคลที่มีรายได้ ให้เตรียมลดหย่อนภาษี 2563 เพื่อยื่นลดหย่อนภาษี 2564 โดยรูปแบบการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดามี 2 แบบด้วยกัน คือ แบบ ภ.ง.ด.90 ผู้ที่มีรายได้นอกเหนือเงินเดือนที่ได้รับ และแบบ ภ.ง.ด.91 ผู้ที่มีรายได้เป็นเงินเดือนโดยไม่มีรายได้เสริมอื่น ซึ่งเราจะต้องเตรียมเอกสารเพื่อยื่นจ่ายภาษี ดังนี้
หนังสือรับรองภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย (50 ทวิ)
รายการลดหย่อนภาษีที่รวบรวมทั้งปี เช่น ค่าเลี้ยงดูบุตร ค่าเลี้ยงดูบิดามารดา
เอกสารประกอบการลดหย่อนภาษี เพื่อกรอกแบบฟอร์มการยื่นจ่ายภาษี
แล้วทำการยื่นภาษีได้ที่ไหน?
ทั้งนี้คุณสามารถยื่นภาษีได้หลายช่องทาง หากเราเตรียมเอกสารทุกอย่างครบแล้ว ให้รีบทำการยื่นจ่ายภาษีให้เร็วที่สุด โดยสามารถยื่นได้หลายช่องทาง ได้แก่
ยื่นภาษีด้วยตัวเองที่กรมสรรพากร
ยื่นภาษีออนไลน์ที่เว็บไซต์กรมสรรพากร https://www.rd.go.th/
ยื่นผ่านแอปพลิเคชั่น RD Smart Tax แต่ต้องลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์กรมสรรพากรก่อน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น