ศึกษาเรียนรู้

29.8.62

อย่าเพิ่งรีบกินมาร์ชมาลโลว์





เรื่อง หยุดก่อน! อย่าเพิ่งรีบกินมาร์ชมาลโลว์

 คุณคิดว่าคนที่ประสบความสำเร็จและล้มเหลวในชีวิตต่างกันที่ตรงไหน  
โครงการวิจัยที่มีชื่อเสียงโด่งดังนี้ เรียกว่าทฤษฎีมาร์ชมาลโลว์    เป็นโครงการวิจัยเด็กก่อนวัยเรียนในการทดลองนั้น พวกเด็กๆจะถูกนำเข้าไปอยู่ในห้องทีละคน   จะมีผู้ใหญ่ซึ่งเป็นผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาและวางขนมมาร์ชมาลโลว์     หนึ่งชิ้นไว้ข้างหน้าเด็กผู้นั้น จากนั้นเธอก็กล่าวว่าเธอต้องออกจากห้องไป 15 นาทีและบอกเด็กน้อยว่าถ้าเขาไม่กินขนมมาร์ชมาลโลว์ที่วางอยู่ขณะที่เธอไม่อยู่ในห้อง เธอจะให้รางวัลด้วยขนมอีกก้อนหนึ่ง    เมื่อเธอกลับมานั่นหมายความว่าถ้าเด็กน้อยไม่ตะกละกินมาร์ชมาลโลว์ในตอนที่เธอไม่อยู่
เด็กน้อยจะได้มันเพิ่มขึ้นอีกชิ้น     ถ้าเป็นคุณคุณจะกินรึเปล่า???      ผลการทดลองนี้บอกอะไร
          ผลวิจัยออกมาว่า เด็กที่สามารถยับยั้งชั่งใจไม่กินมาร์ชมาลโลว์ได้นั้นมีผลการเรียนที่ดีกว่า   สามารถเข้ากับคนอื่นได้ดีกว่า   และจัดการกับความเครียดได้ดีกว่าเด็กที่ไม่สามารถห้ามใจตัวเองไม่ให้กินขนมมาร์ชมาลโลว์ก้อนแรก   
จากการทดลองด้วยเวลาสั้นๆ  หลังจากผู้ใหญ่ออกไปจากห้องได้  กลุ่มเด็กที่สามารถห้ามใจตัวเองไม่กินขนมมาร์ชมาลโลว์    หลายคนเป็นผู้ประสบความสำเร็จในชีวิตมากกว่ากลุ่มเด็กที่ไม่สามารถยับยั้งใจได้อย่างมากมายมาร์ชมาลโลว์   ก็คือ ความต้องการให้ตนเองพอใจทันทีเดี๋ยวนี้  
ความสามารถอดทนรอได้ จะทำให้เด็กผู้นั้นเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จ    มากกว่าเด็กที่ห้ามใจตนเองไม่ได้      จากทฤษฎีมาร์ชมาลโลว์ สรุปได้ว่า "วินัย" ที่จะอดทนอดใจไม่ทำตาม "อารมณ์" เท่านั้น ที่จะทำการใหญ่ได้สำเร็จ      เหตุเพราะงานเล็ก ๆ ที่ทำไม่กี่ชั่วโมงก็เสร็จ คงไม่ต้องการวินัยมากนัก     หากเป็นสิ่งใหญ่ๆ โครงการใหญ่ ๆ ที่ใช้เวลาเป็นเดือน หรือ ปี อย่างเช่น ลดความอ้วน, เล่นกล้าม ปฏิเสธไม่ได้ว่า การรักษาวินัย ทำสิ่งที่ควรทำให้ได้อย่างต่อเนื่อง เป็นสิ่งที่ทำให้คนสำเร็จ ต่างจากคนล้มเหลว    
ยกตัวอย่างง่าย ๆ ตื่นมาวิ่งออกกำลังกายได้ 5 วัน แล้วเช้าวันอาทิตย์ดันตื่นสาย บ่ายไปกินมื้อใหญ่ บอกมีวินัยมา 5 วันแล้ว ขอ "ให้รางวัลตัวเอง" บ้าง ก็จะเท่ากับที่ทำมาทั้งหมดนั้นสูญเปล่า ต้องกลับไปเริ่มใหม่กันเลยทีเดียว
คุณปลูกต้นยาง พร้อมเพื่อนที่ปลูกถั่วงอก เห็น 5 วันเพื่อนเก็บถั่วงอกขายคุณเลยไปกรีดต้นกล้ายางบ้าง แทนที่จะได้น้ำยางไปขาย ทุกอย่างกลับพังทลายลงแทน    เพราะการจะทำการใหญ่ มันไม่ใช่จะสำเร็จในการเหนื่อยครั้งเดียวเหมือนงานรายวัน แต่เป็นการสะสมความสำเร็จทีละนิด ๆ ทวีคูณไปเรื่อย ๆ ทุกวันต่างหาก      ผลลัพธ์ของคนที่ "อดทน" รอไม่กินมาร์ชมาลโลว์ได้จนถึงเวลาที่เหมาะสม   มันจึงหอมหวานกว่าคนที่ขอชื่นชมกับความอร่อยเล็ก ๆ   ของมาร์ชมาลโลว์ชิ้นเล็ก ๆ ทุก ๆ วันนั่นเอง
หนังสือแนะนำ
Don’t eat the Marshmallow Yet!
หยุดก่อน! อย่าเพิ่งรีบกินมาร์ชมาลโลว์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น