ศึกษาเรียนรู้

27.9.63

speaking

การพูดในโอกาสต่าง ๆ

ความสำคัญของการพูดในโอกาสต่าง ๆ

            ตราบใดที่คนเรายังต้องมีกิจกรรมทางสังคมอยู่ในชีวิตประจำวัน    คำกล่าวในโอกาสต่าง ๆ              ก็ยังเป็นสิ่งจำเป็นต้องทำอยู่เสมอ เพราะเป็นการแสดงมารยาทที่ดีและปฏิบัติตามประเพณีของสังคม เช่น การกล่าวคำอวยพร กล่าวคำแนะนำ กล่าวต้อนรับ  เป็นต้น    คำกล่าวลักษณะต่าง ๆ ดังกล่าวนี้เป็นกิจกรรมการพูด ซึ่งผู้ใดมีประสบการณ์มาก มีความรู้และปฏิภาณดี ก็ย่อมกล่าวได้ดีเป็นที่พอใจแก่ผู้ฟัง บางคนสามารถกล่าวได้ทันทีโดยไม่ต้องเตรียม แต่สำหรับผู้ที่ยังมีประสบการณ์น้อยก็จำเป็นต้องอาศัยการเขียนร่างคำกล่าวไว้ล่วงหน้า เพื่อให้สามารถกล่าวได้ด้วยความมั่นใจ

องค์ประกอบของการพูดในโอกาสต่าง ๆ

            การพูดในโอกาสต่าง ๆ เป็นการพูดที่ปรากฏอยู่ในชีวิตประจำวันตามสถานการณ์ต่าง ๆ ที่มีองค์ประกอบสำคัญที่ผู้พูดจะต้องคำนึงถึงอยู่เสมอ

  ๑. กาละ  หมายถึงวัน เวลา ที่การพูดเกิดขึ้น เช่น ตอนเช้า สาย บ่าย ค่ำ หรือระหว่างการรับประทานอาหาร การนั่งฟังบรรยาย

  ๒. เทศะ  หมายถึงสถานที่ที่การพูดนั้นได้กระทำหรือแสดงออกเช่น ในสำนกงาน ในห้องประชุม ในห้องรับแขก ในครัว ในโรงภาพยนตร์ ในห้องเรียน ฯลฯ

  ๓. สัมพันธภาพ  หมายถึงความสัมพันธ์ระหว่างผู้พูดกับผู้ฟัง เช่น ความสนิทสนมความเป็นเพื่อน พนักงานกับนายจ้าง ครูกับศิษย์ บิดากับมารดา หรือบิดา-มารดากับบุตร ประชาชนผู้มาติดต่อราชการกับเจ้าหน้าที่ ฯลฯ สังคมได้กำหนดความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลไว้ตามครรลองของวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณี

  ๔. จุดมุ่งหมายของการพูด  หมายถึงความต้องการในเจตนาในการพูดทั้งของผู้พูดและผู้ฟัง เช่น เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง เพื่อหาข้อมูลและวิธีการในการปฏิบัติ เพื่อโน้มน้าวใจเพื่อให้เกิดการคล้อยตาม  เห็นด้วย เพื่อให้เกิดความสบายใจ อบอุ่น เพื่อให้เกิดกำลังใจ ฮึกเหิม ฯลฯ

  ๕.เนื้อหาของการพูด  หมายถึงสารที่ผู้พูดและผู้ฟังพูดโต้ตอบกันโดยอาศัยระบบสัญลักษณ์ทั้งอวัจนภาษาและวัจนภาษา เนื้อหาของการพูดควรจะมีความต่อเนื่อง ตอบได้ซึ่งกันและกันระหว่างคู่สนทนาหากเป็นการพูดต่อกลุ่มการพูดต่อสาธารณชนนอกจากความต่อเนื่องแล้ว ควรจะมีความกระจ่างชัดเจนความถูกต้องด้านการใช้ภาษา เรียงลำดับความได้ดี ฯลฯ

  ๖.โอกาส  หมายถึงเหตุการณ์หรือสภาพแวดล้อมที่ทำให้เกิดการพูดนั้น ๆ โดยมักจะเกี่ยวพันกับกาลเทศะ ซึ้งทำให้เกิดการพูดตามโอกาสขึ้น อันเป็นเรื่องเฉพาะเจาะจงลงไป เช่น การกล่าวอวยพรเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ การกล่าวอวยพรคู่บ่าวสาวในงานสมรส การกล่าวขอบคุณวิทยากร การกล่าวแสดงความคิดเห็นในการพัฒนาการขายผลิตภัณฑ์ของบริษัท ฯลฯ

  ๗. มารยาท  หมายถึงแนวทางในการออกแสดงของพฤติกรรมการพูด หรือกฎเกณฑ์ ขนบธรรมเนียม ตลอดจนคุณธรรมประจำใจทั้งของผู้พูดและผู้ฟัง เช่น ในการกล่าวขอบคุณวิทยากร ซึ่งเชิญมาบรรยาย แม้ว่าการบรรยายจะน่าเบื่อหน่ายอยู่บ้าง   ผู้กล่าวขอบคุณก็ไม่ควนพูดกระทบกระเทียบตำหนิ เย้ยหยัน และสรุปจบลงด้วยคำขอบคุณอันไพเราะ เพราะจนแสดงถึงความไม่จริงใจของผู้พูดและถือว่าไม่เหมาะสมวัฒนธรรมไทย เป็นต้น

  องค์ประกอบทั้ง ๗ ประการนี้ จะเป็นต้นกำหนดลักษณะภาษาที่ใช้ในการพูดทุกระดับ การพูดในแต่ละสถานการณ์จะมีความแตกต่างกันออกไปก็เพราะความแตกต่างขององค์ประกอบเหล่านี้นั่นเอง

แนวเนื้อหาที่ใช้พูดในโอกาสต่างๆ

  การศึกษาแนวเนื้อหาที่ใช้พูดแต่ละโอกาส มีประโยชน์สำหรับการพุด ทั้งที่เพราะไม่ว่าผู้พุดจะมีโอกาสเตรียมตัวล่วงหน้ามากหรือน้อยเพียงใดก็ตาม แนวเนื้อหาจะเป็นเสมือนเข็มทิศที่จะชี้ว่าควรจะพูดถึงสิ่งใดบ้าง จึงจะเหมาะกับโอกาสนั้น ๆ  แนวเนื้อหาของการพูดแต่ละโอกาสมีดังนี้

๑. การกล่าวคำแนะนำ  ส่วนมากจะเป็นการกล่าวแนะนำผู้บรรยาย ผู้อภิปราย ผู้โต้วาทีหรือผู้เข้าสัมมนา เป็นต้น ความมุ่งหมายของการแนะนำก็เพื่อให้ผู้ฟังสนใจ “ผู้พูด” และ “เรื่องที่จะพูด”             ซึ้งมีขึ้นตอนในการแนะนำ คือ

  ๑.๑  กล่าวทักทายผู้ฟัง เช่น ท่านผู้ฟังที่เคารพ ท่านผู้ฟังที่รักทั้งหลาย ฯลฯ

  ๑.๒ เรียกร้องความสนใจ โดยกล่าวย่อ  เกี่ยวกับตัวผู้พูด วุฒิทางการศึกษา (ถ้าจำเป็น) ตำแหน่ง ความสามารถและประสบการณ์ในเรื่องที่จะพูด

๑.๓ เรียกร้องให้เกิดความสนใจในเรื่องที่พูด กล่าวสั้น ๆ  ถึงความสำคัญและความเหมาะสมของเรื่องที่จะพุด เร่งเร้าให้ฟังสนใจที่จะฟัง

๑.๔ ประกาศชื่อผู้พูด โดยเน้นเสียงให้หนักแน่นชัดเจน

๑.๕ พยายามแนะนำตัวปากเปล่า ไม่ควรอ่านจากเอกสารที่เตรียมไว้ และไม่ควรท่องจำ แต่แนะนำจาก “ความทรงจำ”   เพื่อแสดงให้เห็นว่ามีความสนใจอย่างจริงจังต่อผู้พูด

                ๒. การกล่าวให้เกียรติหรือมอบรางวัล  เมื่อมีการมอบทุน ให้รางวัล ให้เกียรติยศ หรือทำพิธีระลึกถึงคุณงามความดีแก่ผู้ใด มักจะมีการพูดเพื่อให้เกียรติแก่ผู้ได้รับผล หรือเกียรติหรือเกียรติแห่งความดีนั้นปกติจะพูดประมาณ ๒-๓ นาที มีหลักเกณฑ์ ดังนี้

๒.๑ กล่าวถึงเหตุผลในการมอบ โดยกล่าวถึงความสำเร็จ ความดีหรือความสามารถของผู้ได้รับว่าสมควรจะได้รับเกียรตินั้นอย่างไร ควรเป็นการพูดอย่างจริงใจ

๒.๒ แสดงความพอใจในเกียรติที่มอบให้ และควรระบุให้ชัดว่าใครคือบุคคลที่ได้รับเกียรตินี้ เพื่อเป็นการแสดงว่า ผู้ให้ตระหนักถึงคุณความดีนั้นอย่างแม้จริง และเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งเกียรติคุณแก่ผู้ได้รับรางวัลหรือของขวัญ

๒.๓ มอบของขวัญหรือรางวัลเมื่อได้กล่าวต่อผู้ฟังจบแล้ว โดยหันไปพูดกับผู้รับโดยตรงด้วยเสียงที่ดังพอได้ยินกันทั่ว พร้อมกับมอบของขวัญหรือของรางวัลให้  

๓. การกล่าวตอบการให้เกียรติหรือมอบรางวัล ผู้ที่ได้รับทุน รางวัลเกียรติคุณ หรือการแสดงความระลึกถึงความดี มักจะกล่าวตอบรับซึ่งควรพูดสั้น ๆ ให้สอดคล้องกับสภาพในขณะนั้น โดยอาศัยแนวทางดังนี้

๓.๑ แสดงความขอบคุณ แสดงความพอใจในของขวัญหรือรางวัลนั้นว่า นอกจากจะมีประโยชน์ในตัวของมันเองแล้ว ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งน้ำใจหรือความปรารถนาดีอันสูงส่งใช้ภาษาง่าย ๆ ชัดเจน จริงใจ


                                ๓.๒ ถ่อมตัวและยกย่องผู้ร่วมงาน อย่าโอ้อวดความสามารถของตนเกินไป และไม่ควรถ่อมตนจนไร้ความหมาย ควรสรรสร้างชมเชยผู้ร่วมงานที่ได้ช่วยเหลือเป็นผลสำเร็จ

                                ๓.๓ สรรเสริญผู้ให้ของขวัญหรือรางวัลด้วยความสุจริตใจ กล่าวถึงผลงานและความปรารถนาดี

                                ๓.๔ กล่าวสรุป โดยเน้นถึงความพึงพอใจที่ได้รับของขวัญหรือของรางวัล ในขณะที่กล่าวควรมองไปยังของขวัญหรือรางวัลด้วย

๔. การกล่าวต้อนรับ ในกรณีที่มีบุคคลสำคัญหรือคณะบุคคลมาประชุมกันหรือมาเยี่ยมเยียนอาจมีการกล่าวต้อนรับ เพื่อแสดงความปรารถนาดีและให้ผู้มาเยือนรู้สึกอบอุ่นใจ การพูดไม่ควรยาวนักมีการเตรียมล่วงหน้าเป็นอย่างดี มีแนวทาง ดังนี้

                                ๔.๑ กล่าวแสดงความยินดีแก่ผู้มาเยือน

                                ๔.๒ กล่าวสรรเสริญหรือยกย่องผู้มาเยือน เช่น เป็นใคร มีผลงานดีเด่นอะไร มีความสัมพันธ์อย่างไรกับผู้ต้อนรับ โดยการอธิบายหน่วยงานหรืองานอย่างย่อ ๆ

                                ๔.๓ แสดงความยินดีที่ได้ให้การต้อนรับ ควรกล่าวเพียงสั้น ๆ ย้ำการต้อนรับอีกครั้งหนึ่ง

                                ๔.๔ ขออภัยหากมีสิ่งใดบกพร่องไป และหวังว่าผู้มาเยือนจะกลับมาเยือนอีก

  ๕. การกล่าวตอบการต้อนรับ เมื่อมีการกล่าวต้อนรับ ควรมีการกล่าวขอบคุณอย่างสั้น ๆให้สอดคล้องกับการพูดต้อนรับนั้น ๆ ส่วนมากต้องพูดฉับพลัน เพื่อความไม่ประมาท ควรเตรียมแนวทางการพูดไว้ล่วงหน้าดังนี้

                                ๕.๑ แสดงความยินดีที่ได้มาเยือน

                                ๕.๒ แสดงความขอบคุฯอย่างจริงใจต่อเกียรติที่ได้รับ

                                ๕.๓ กล่าวอย่าสรรเสริญฝ่ายที่ให้การต้อนรับ เช่น กล่าวถึงชื่อเสียงขององค์การหรือคุณงามความดีของสถาบันนั้น ๆ

                                ๕.๔ กล่าวเชื้อเชิญผู้ต้อนรับไปเยือนตนบ้าง

       ๖. การกล่าวในการเข้ารับตำแหน่ง ผู้ที่ได้รับตำแหน่งใหม่ โดยเฉาะผู้ที่เป็นหัวหน้าควรจะเรียกผู้ใต้บังคับบัญชามาประชุมกัน เพื่อแถลงนโยบายและแผนการดำเนินงาน ตลอดจนความรู้ความคิดของผู้รับตำแหน่งใหม่ มีแนวทางการกล่าวดังนี้

                                ๖.๑ กล่าวยินดีที่ได้รับโอกาสทำงานร่วมกับผู้ใต้บังคับบัญชา

                                ๖.๒ กล่าวยกย่อง หรือคุณค่าของสถาบันของสถานที่ที่ตนทำงาน


                                ๖.๓ กล่าวถึงหลักการ นโยบาย อุดมคติในการทำงานของตน

                                ๖.๔ พูดให้สำคัญแก่ผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคน และเชิญชวนให้มาร่วมใจในการทำงานเพื่อความก้าวหน้าของหน่วยงาน

          ๗. การกล่าวอวยพร เป็นการแสดงความยินดีแก่งานมงคล เช่น งานมงคลสมรส งานวันเกิด งานปีใหม่ งานฉลลองการเลื่อนยศ เป็นต้น

๗.๑ งานมงคลสมรส ผู้ได้รับเชิญให้พูดควรใช้แนวทางการพูดดังนี้

   ๗.๑.๑ รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับเชิญมากล่าวอวยพร

      ๗.๑.๒ กล่าวถึงความสำพันธ์ของผู้พูดกับคู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้งสองฝ่าย โดยเน้นความดีความงาม ของคู่สมรส

   ๗.๑.๓ กล่าวแสดงความยินดีที่ทั้งสองได้สมรสกัน และเป็นคู่ครองที่เหมาะสม

   ๗.๑.๔ กล่าวให้ข้อคิดในการครองเรือนแก่คู่สมรส

    ๗.๑.๕ กล่าวคำอวยพรโดยการชักชวนให้ดื่มแสดงความยินดี

  ๗.๒ งานวันเกิด

                ๗.๒.๑ กล่าวแสดงความยินดีที่ได้รับเกียรติให้ขึ้นมาพูดกล่าวอวยพร

                ๗.๒.๒ กล่าวถึงความสัมพันธ์ของผู้พูดต่อเขจ้าภาพ

                ๗.๒.๓ กล่าวถึงคุณความดี และเกียรติคุณ หรือผลงานเด่น ๆ ของเจ้าภาพ

                ๗.๒.๔ กล่าวอวยพรให้เจ้าภาพมีอายุยืนนาน มีความสุขความเจริญก้าวหน้ายิ่ง ๆ ขึ้นไป

  ๘. การกล่าวตอบคำอวยพร ผู้ที่ได้รับการอวยพรควรจะกล่าวตอบขอบคุณ เพื่อแสดงมารยาทอันดีงามและน้อมรับคำอวยพรนั้น มีแนวทางกล่าวกว้าง ๆ ดังนี้

                ๘.๑ ขอบคุณผู้ที่มาร่วมงานทุกคน และซาบซึ้งที่ได้ให้เกียรติมาในงานครั้งนี้ และขอบคุณผู้มีส่วนร่วมในการจัดงาน

                ๘.๒ กล่าวขออภัย หากมีสิ่งใดบกพร่อง

                ๘.๓ กล่าวขอให้ร่วมสนุกในงานต่อไป

  ๙. การกล่าวไว้อาลัย กรกล่าวไว้อาลัยมีหลายหอย่าง เช่น ไว้อาลัยผู้ตาย ไว้อาลัยผู้ที่ย้ายไปรับตำแหน่งใหม่ หรือไปศึกษาต่อ เป็นต้น

                ๙.๑ ไว้อาลัยผู้ตายหรือในงานศพ ควรยึดแนวดังนี้

                                ๙.๑.๑ กล่าวแสดงความเสียใจแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต

                                ๙.๑.๒ สรรเสริญผู้เสียชีวิต โดยบอกเล่าถึงประวัติ ผลงานดีเด่น คุณความดี

                                ๙.๑.๓ ความอาลัยของผู้อยู่เบื้อหลัง ที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไป

                                ๙.๑.๔ แสดงความหวังว่าวิญญาณของผู้ตายคงไปสู่สุคติ

                ๙.๒ ไว้อาลัยผู้ที่ย้ายไปรับตำแหน่งใหม่ แนวทางการกล่าวมีดังนี้

                                ๙.๒.๑ กล่าวแสดงความอาลัยที่ต้องจากไป หลังจากได้ร่วมทำงานกันจนคุ้นเคยรักใคร่กัน แต่ก็ดีใจที่เขาได้เลื่อนตำแหน่ง และมีอนาคตสดใสรุ่งโรจน์ดีขึ้น

                                ๙.๒.๒ สรรเสริญยกย่องคุณความดีของบุคคลที่จากไป

                                ๙.๒.๓ กล่าวอวยพรให้แก่ผู้ที่จากไป ให้เขาประสบความสำเร็จในตำแหน่งใหม่

  ๑o. การกล่าวอำลา ในกรณีที่ต้องจากถิ่นที่เคยอยู่มานาน เพื่อไปประกอบธุรกิจ รับราชการ หรือ ไปประจำ ณ สถานที่อื่น ถ้ามีการจัดเลี้ยงส่งและมีการมอบของขวัญที่นะลึก ควรมีการพูดขอบคุณที่ได้รับของขวัญนี้ และกล่าวคำอำลา แนวทางการกล่าวดังนี้

 ๑o.๑ แสดงความเสียใจที่ต้องจากไป กล่าวให้ทราบว่าทำไมจึงไม่อยากจากไป ความสุขที่ได้รับและความคุ้นเคยที่มีกับบุคคลต่าง ๆในที่ทำงานเดิม เล่าถึงเหตุการณ์ที่ประทับใจในระหว่างที่ได้อยู่มานาน และการระลึกถึงความภูมิใจตลอดไป

                        ๑o.๒ สรรเสริญคณะผู้จัดทำหรือร่วมเลี้ยงส่งจากใจจริง

                        ๑o.๓ คาดหมายความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นที่จะยังคงมีคลอดไปโดยแสดงคามมั่นใจว่าแม้จะออกไปแต่ความสัมพันธ์ที่ดียังคงไม่มีวันจางหาย หากผู้มดผ่านไปสถานที่ที่จะไปอยู่ใหม่ ขอให้แวะเยี่ยมเยียน

                        ๑o.๔ กล่าวสรุปโดยกล่าวคำอำลาและอวยพร ควรพูดให้สั้น ขอลาท่านทั้งหลายไปก่อน ขอให้ท่านจงมีความสุขความเจริญ

การกล่าวแนะนำผู้บรรยาย

ท่านผู้มีเกียรติที่เคารพครับ (คะ)   กระผม (ดิฉัน)รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่เป็นผู้แนะนำวิทยากรที่จะบรรยายเรื่อง การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเป็นพิเศษ

ปัจจุบันท่านทำงานอยู่ที่        ท่านสำเร็จการศึกษามาจากมหาวิทยาลัย               และมีความสนใจในเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเป็นพิเศษ

ฉะนั้นจึงเชื่อว่าท่านผู้ฟังจะได้รับความรู้จากท่านเป็นอันมาก   ข้อตอนรับอาจารย์                      ขอกราบเรียนเชิญท่านอาจารย์                   ครับ (ค่ะ)”

การกล่าวให้เกียรติหรือมอบรางวัล

  คุณยอดายเป็นผู้ที่ให้ความอนุเคราะห์แก่วิทยาลัยของเราด้วยดีตลอดมา เป็นระยะเวลายาวนาน โดยท่านไม่หวังผลตอบแทนประการใด นอกจากต้องการให้วิทยาลัยเจริญก้าวหน้า เป็นสถานที่ให้ความรู้และอบรมสั่งสอนเยาวชนให้เป็นพลเมืองดีของชาติต่อไป 

  วิทยาลัยตระหนักในคุณงามความดีของท่าน ที่ได้กระทำให้เป็นที่ประจักษ์หลายประการ        อาทิ การบริจาคทรัพย์สร้างอาคารเรียน ซื้ออุปกรณ์ดารเรียน เข้าร่วมกิจกรรมของวิทยาลัยทุกครั้ง เป็นต้น

  วิทยาลัยจึงขอมอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่ท่าน เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งคุณงามความดีที่ท่านมีต่อพวกเราเสมอมา และอาจตลอดไป

 การกล่าวต้อนรับ


  ชาวนครเชียงใหม่รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง    ที่ได้มีโอกาสต้อนรับท่าน      ท่านยังเคยให้คำแนะนำอันเป็นประโยชน์แก่การปรับปรุงการบริหารด้านสาธารณประโยชน์แก่นครเชียงใหม่ซึ่งนับเป็นความกรุนาของท่านอย่างยิ่ง 

  ชาวนครเชียงใหม่ขอต้อนรับท่าน           ขอให้ท่านได้รับความสุขสบายจากบรรยากาศและการท่องเที่ยวในเมืองเชียงใหม่  รวมทั้งความปรารถนาดีอย่างจริงใจ ของชาวเชียงใหม่ทุกประการ

การกล่าวตอบการต้อนรับ

  ข้าพเจ้ารู้สึกเป็นเกียรติและยินดีอย่างยิ่ง ที่ได้มีโอกาสมาเยือน          ได้รับการต้อนรับที่เปี่ยมไปด้วยไมตรีและประเพณีที่อบอุ่น

  ข้าพเจ้าเคยได้รับคำบอกเล่าก่อนเดินทางมาว่า เชียงใหม่เป็นเมืองสวยงามแห่งหนึ่ง ข้าพเจ้าเพิ่งประจักษ์ว่า นอกจากเมืองจะสวยงามตามคำเล่าลือแล้ว ชาวเชียงใหม่ยังมีน้ำใจอันดีงามไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าความสวยงามของบ้านเมืองการมาเยือนในครั้งนี้     ทำให้ข้าพเจ้ามีความประทับใจ ที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น

  ข้าพเจ้าใคร่ของปวารณาตัวว่าหากท่านมีโอกาสผ่านไป                ให้ข้าพเจ้าได้รับเกียรติต้อนรับท่านบ้าง     เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์อันดีงามที่เรามีต่อกันให้แน่นแฟ้นตลอดไป”

การกล่าวในกรเข้ารับตำแหน่ง

  “กระผมรู้สึกยินดีที่ได้มีโอกาสมาร่วมทำงานกับท่านทุกคน ณ ที่นี้ กระผมทราบดีว่าหน่วยงานของท่านมีผลงานดีเด่นตลอดมากระผมจึงใคร่สือทอดเจตนารมณ์ด้วยการอุทิศตัวทำงานร่วมกับท่านด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ยุติธรรม เพื่อความก้าวหน้าของหน่วยงาน

  กระผมจะระลึกเสมอว่า หน่วยงานแห่งนี้เจริญก้าวหน้ามาได้จนทุกวันนี้ ก็เพราะผลงานที่ทุกท่านได้ช่วยกันเสริมสร้างขึ้นมาจนเป็นปึกแผ่น 

  กระผมหวังว่าทุกท่านคงจะให้ความร่วมมือกับกระผมสร้างสรรค์หน่วยงานแห่งนี้ให้เจริญก้าวหน้าต่อไป"

การกล่าวอวยพรในงานมงคลสมรส

“กระผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มากล่าวคำอวยพรแก่คุณโสภาพรรณ และคุณเลิศชาย ในงานมงคลสมรสในวันนี้ กระผมคุ้นเคยกับคุณเลิศชายมาตั้งแต่เด็กเนื่องจากเป็นบุตรของเพื่อนสนิท คุณเลิศชายเป็นคนดี มีความมานะ อดทน สร้างฐานะด้วยความขยันขันแข็ง ส่วนคุณโสภาพรรณก็เป็นกุลสตรีที่ดี เรียบร้อย อ่อนหวาน ควรแก่การยกย่อง คุณโสภาพรรณและคุณเลิศชายจึงเป็นคู่สมรสที่เหมาะสมกันอย่างยิ่ง จึงใคร่ขอให้คู่สมรสรักษาคุณงามความดีนี้ไว้ ด้วยความเข้าใจอันดี ถ้อยทีถ้อยอาศัยต่อกัน


                ในวาระอันเป็นมงคลนี้ กระผมใคร่ขอเชิญท่านผู้มีเกียรติทั้งหลาย ดื่มอวยพรให้แก่ค่าวสาวขอให้ทั้งสองมีความสุขความเจริญในชีวิตสมรสตลอดไป”

การกล่าวอวยพรในงานวันเกิด

“กระผมรู้สึกเป็นเกียรติ ที่ได้กล่าวคำอวยพรในวันคล้ายวันเกิดของคุณโฉมอนงค์ในวันนี้กระผมกับคุณโฉมอนงค์มีความสนิทสนมกันมานาน ในฐานะที่ท่านเป็นนักธุรกิจและเป็นเจ้าของบริษัทท่านได้บุกเบิกงานของท่านจนเป็นปึกแผ่นมั่นคง เป็นที่ไว้วางใจของบุคคลทั่วไป ในขณะที่ช่วยยกระดับสังคมที่ด้อยโอกาสให้ทัดเทียมกับสังคมที่เจริญแล้ว นับว่าท่านเป็นผู้หนึ่งที่สร้างความเจริญให้แก่ชาติบ้านเมืองทั้งในด้านเศรษฐกิจสังคม 

ในโอกาสอันเป็นวันคล้ายวันเกิดของคุณโฉมอนงค์ กระผมขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายโปรดดลบันดาลให้คุณโฉมอนงค์ประสบแต่ความสุขความเจริญ ก้าวหน้าในการงานและมีอายุยืนนานเป็นที่พึ่งของครอบครัว และญาติมิตรสืบต่อไป”

การกล่าวตอบคำอวยพร (งานมงคลสมรส)

“กระผมและเจ้าสาวรู้สึกซาบซึ้ง ที่ท่านผู้มีเกียรติทุกท่านได้ให้เกียรติมาร่วมแสดงความยินดีงานมงคลสมรสของกระผมในวันนี้ 

หากมีสิ่งใดขาดตกบกพร่อง กระผมและเจ้าสาวใคร่กราบขออภัยและขอกราบขอบพระคุณทุกท่านเป็นอย่างสูง ณ โอกาสนี้”

การกล่าวไว้อาลัยผู้ที่ย้ายไปรับตำแหน่งใหม่

  “คุณโชคดีเป็นผู้มีความรู้ความสามรถ มีมนุษย์สัมพันธ์ดี และช่วยสร้างความเจริญให้แก่หน่วยงานนี้เป็นอันมาก จนเป็นที่รักใคร่และคุ้นเคยกับเพื่อนร่วมงานทุกคน 

  พวกเรามีความอาลัยที่คุณโชคดีจะต้องจากไป แต่ก็ดีใจที่คุณได้เลื่อนตำแหน่ง มีความก้าวหน้าในอาชีพ และหวังว่าคุณโชคดีจะสร้างความเจริญให้แก่หน่วยงานเหมือนกับที่ท่านเคยทำไว้ที่นี่ 

  พวกเราจึงใคร่ขอแสดงความยินดีอีกครั้ง และขอมอบของที่ละลึกเล็กน้อยแก่ท่าน แต่เปี่ยมด้วยน้ำใจจากพวกเราทุกคน”

การกล่าวไว้อาลัยผู้ตายหรือในงานศพ

  “ผมได้ทราบข่าวการถึงแก่กรรมของคุณวินัย เสริมศิริมงคล ด้วยความเศร้าสลดใจเป็นอย่างยิ่ง ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวในการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่นี้ด้วยความจริงใจ

  คุณวินัย เสริมศิริมงคล เป็นผู้ที่ได้อุทิศตนเพื่อสังคมและประเทศชาติมาตลอด ไม่เคยร่วมโครงการปลูกต้นไม้ที่พุทธมณฑล ให้ความร่วมมือในการจัดงานวันดนตรีเพื่อเด็กพิการร่วมกับกองกำลังรักษาพระนคร และศิลปินนักร้องมาหลายครั้ง เพื่อหารายได้ช่วยเหลือเด็กพิการให้มีความป็นอยู่ที่ดีขึ้นและเป็นที่ยอมรับของสังคม นอกจากนี้ ยังได้ร่วมรณรงค์จัดตั้งกองทุนส่งเสริมพระพุทธศาสนาและให้ความร่วมมือในการดำเนินงานตามโครงการอีสานสีเขียวของกองทัพบกมาตลอด โดยไม่เห็นแก่ความเหนื่อยยาก ทั้งนี้เพื่อสังคมและประเทศชาติ ในส่วนตัวคุณวินัย เสริมศิริมงคล เป็นคนสุภาพเรียบร้อยโอบด้อมอารี ชอบช่วยเหลือสังคมและเพื่อนร่วมงานอยู่เสมอ จึงเป็นที่รักแก่ผู้ที่ได้รู้จัก นับเป็นแบบฉบับของผู้ที่มุ่งมั่นประกอบแต่คุณงามความดีที่ควรยกย่องเป็นอย่างยิ่ง

  ขออำนาจกุศลผลบุญตลอดจนคุณงามความดีที่ คุณวินัย เสริมศิริมงคล ได้ประกอบไว้ รวมทั้งบุยกุศลที่ครอบครัวและญาติมิตรได้บำเพ็ญอุทิศให้ จงเป็นพลังปัจจัยอำนาจให้ดวงวิญญาณของคุณวินัย เสริมศิริมงคล ประสบแต่ความเกษมสุข ณ สัมปรายภพตลอดกาลเทอญ”


ที่มา : https://sites.google.com/a/npu.ac.th/kar-phud-ni-xokas-tang/kar-phud-ni-xokas-tang


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น