ศึกษาเรียนรู้

28.4.62

ROE

ROE คือ อะไร?

   นักลงทุนทุกคนคงอยากจะหาหุ้นที่ให้ผลตอบแทนดีกันใช่ไหมครับ หุ้นที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกับนักลงทุนควรจะเป็นหุ้นที่ปัจจัยพื้นฐานดีและผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในอัตราส่วนทางการเงินที่ใช้ในการพิจารณาประกอบการลงทุนคือ ROE (Return on Equity)

แล้ว ROE คืออะไร?
ROE = Net Profit/Equity

Net Profit คือ กำไรสุทธิของบริษัท

Equity คือ ส่วนของผู้ถือหุ้น

หุ้นที่สร้างกำไรได้สูงโดยไม่ต้องใช้ส่วนของผู้ถือหุ้นเยอะ คือหุ้นที่สร้างผลตอบแทนได้ดี ควรมี ROE ไม่น้อยกว่า 15%   เราลองมาดูที่ส่วนประกอบของ ROE กัน เริ่มจาก Equity กันก่อน จากแผนภาพนี้ 
roe

(อ้างอิงจากหนังสือ คัมภีร์หุ้นห่านทองคำ โดยคุณธนภัทร รุ่งธนาภิรมย์)               

       บริษัทจะเริ่มต้นจากการระดมทุน (E, Equity) มาสร้างทรัพย์สิน (A, Asset) แล้วนำทรัพย์สินที่ได้มาสร้างรายได้ (R, Revenue) รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายคือกำไร (P, Profit) และกำไรหลังจากหักเงินปันผล จะเรียกว่ากำไรสะสม ส่วนนี้จะถูกทบกลับมาที่ส่วนของผู้ถือหุ้นอีกที ทำให้ E เยอะขึ้น แต่ถ้าบริษัทขาดทุน ส่วนของผู้ถือหุ้นจะลดลง

      ดังนั้นสำหรับบริษัทที่มีกำไร E จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถ้ากำไรไม่เติบโตมากพอ ROE จะลดลงได้ครับ บริษัทที่สามารถสร้างกำไรได้ดีอย่างต่อเนื่องจะทำให้ ROE ยังอยู่ในระดับสูงต่อไป แต่ก็ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้ ROE สูงได้อีกครับ นั่นคือ อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin), Asset Turnover (การหมุนรอบของทรัพย์สิน) และ Equity Multiplier  ตามสมการดังนี้ 

roe
 ** ปกติ ทรัพย์สิน  = ส่วนของผู้ถือหุ้น + หนี้สิน

ดังนั้น Equity Multiplier เขียนได้อีกอย่างว่า equity multiplier

equity multiplier

       บริษัทที่มีอัตรากำไรสุทธิสูง ขายสินค้าได้เก่ง และมีสัดส่วนการใช้หนี้สินมาก (DE Ratio สูง) จะมี ROE สูง บางทีปัจจัยที่ทำให้ R สูงอาจจะมีแค่ 1-2 ปัจจัยก็ได้ แต่บริษัทที่สุดยอดจริงๆ ควรทำ ROE ได้สูงจากปัจจัย 2 ตัวแรก เพราะเป็นปัจจัยที่เกิดจากความสามารถของบริษัทครับ (สร้างอัตรากำไรได้สูง และขายของได้เก่ง)

      ส่วนปัจจัยสุดท้ายคือการก่อหนี้ ก็เป็นปัจจัยเพิ่ม ROE ได้เหมือนกัน แต่บริษัทไม่ควรมีส่วนนี้มากจนเกินไปครับ เพราะจะทำให้ปัจจัยแรก (กำไรสุทธิ) ลดลงได้จากดอกเบี้ยที่จ่ายสูงขึ้น ดังนั้นในการเลือก ROE เราควรวิเคราะห์ที่มาของ ROE อีกชั้นหนึ่ง 

หวังว่าเมื่อทำความรู้จักกับ ROE กันแล้ว ต่อไปนักลงทุนน่าจะสามารถมองหาหุ้นที่ ROE สูงๆ จากคุณภาพการดำเนินการของบริษัทได้จริงๆ


ที่มา : https://www.finnomena.com/investment-reader/roe/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น